ปัญหาตกขาวและการรักษา

      เมือกขาวที่ติดกางเกงในนั้น มีออกในทุก ๆ เดือน นับเป็นเรื่องปกติ โดยที่เมือกขาวนี้จะถูกขับออกมามากจากช่องคลอดช่วงกลาง ๆ ของรอบประจำเดือนและประกอบด้วยน้ำคัดหลั่งที่ปากมดลูก และเนื้อเยื่อที่หลุดออกมาจากปากมดลูก มดลูกและผนังช่องคลอด ถ้ามีปริมาณน้ำคัดหลั่งมาก เมือกนี้ก็จะมีลักษณะเป็นน้ำใส ๆ แต่ถ้ามีปริมาณน้ำคัดหลั่งน้อย เมือกนี้ก็จะมีลักษณะขุ่นขาวเหมือนแป้งเปียก ในระยะอื่นของรอบประจำเดือนจะมีเมือกขาวออกมาน้อย ด้วยเหตุที่มีเมือกขาวเป็นรอบ ๆ บางคนจึงเรียกเมือกขาวนี้ว่า ระดูขาว แต่ส่วนใหญ่นิยมเรียกว่า "ตกขาว"

     อย่างไรก็ตาม ถ้ามีตกขาวมากผิดปกติ มีกลิ่น สี เป็นหนอง หรือมีอาการคันร่วมด้วย ถือว่าเป็นภาวะผิดปกติของเมือกที่ออกมาบริเวณปากช่องคลอด ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ โดยเมือกอาจมีสีอื่น ไม่ใช่สีขาว เป็นหนอง มีกลิ่น มีปริมาณมากตลอดจนอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอด ปัสสาวะขัด หรือมีปวดท้องน้อยร่วมด้วย

     นอกจากนี้ภาวะตกขาวผิดปกติ ยังอาจเกิดเนื่องจากแพ้สบู่ที่เจือน้ำหอม มีสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด ปากมดลูกมีแผลหรืออักเสบ เป็นเนื้องอก หรืออยู่ในวัยหมดประจำเดือน หรือขาดฮอร์โมนเพศหญิง

ฉันเป็นตกขาวผิดปกติ ดิฉันควรงดการมีเพศสัมพันธ์กับสามี หรือไม่ ?

     ตกขาวผิดปกติเป็นโรคของสตรี ซึ่งเป็นได้ทั้งโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งเชื้อบางชนิดอาจติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ และต้องการการรักษาไปพร้อมกันทั้งสามีและภรรยา มิฉะนั้นจะติดโรคกลับไปกลับมาระหว่างสามีและภรรยา หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ก็ให้สามีใช้ถุงยางอนามัย อย่างไรก็ตาม การงดที่จะมีเพศสัมพันธ์กับสามีเป็นการปฏิบัติที่ดีที่สุดไม่ว่าจะมีตกขาวจากการติดเชื้อใด

ฉันเคยมีตกขาวผิดปกติ แต่ไม่อยากเป็นอีก ฉันควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

     ข้อที่ควรปฏิบัติเพื่อป้องกันการมีตกขาวผิดปกติ ได้แก่ การให้สามีหรือคู่นอนสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ผ้าอนามัยชนิดสอด หรือชนิดมีกลิ่นหอมไม่สวมล้างช่องคลอด ไม่ใช้สารหล่อลื่น รู้จักที่จะเช็ดก้นจากด้านหน้าไปด้านหลังภายหลังการถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ ใช้กางเกงในผ้าฝ้าย ตลอดจนใส่กางเกงที่ไม่คับบริเวณเป้าเพื่อให้อาการถ่ายเทได้สะดวก


ได้รับยาจากโรงพยาบาลรักษาตกขาว เป็นยาเหน็บช่องคลอดจะใช้ยานี้อย่างไร ?

การใช้ยาเหน็บช่องคลอดมีวิธีการเป็นขั้นตอนดังนี้

     1. ล้างมือให้สะอาดก่อนที่จะเหน็บยา หากเล็บยาว ควรตัดเล็บให้สั้น เพื่อที่จะไม่ขีดข่วนผิวบริเวณปากช่องคลอด

     2. แกะยาออกจากแผง แล้วจุ่มเม็ดยานั้นในน้ำสะอาดและรีบเอาขึ้น การทำแบบนี้ทำให้เม็ดยาลื่นขึ้น ซึ่งช่วยให้สอดเข้าช่องคลอดได้ง่ายขึ้น

     3. นอนลง โดยนอนหงายชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง ถ่างขาออก หรือนั่งยอง ๆ เพื่อให้สะดวกในการสอดเม็ดยาเข้าไปในช่องคลอด

     4. สอดเม็ดยาเข้าไปในช่องคลอด ใช้นิ้วมือดันยาเข้าไปในช่องคลอดให้ลึกที่สุดหรือจนถึงปากมดลูก

     5. หลังจากสอดยาเข้าไปลึกพอแล้ว ควรนอนพักประมาณ 15 นาที ไม่ควรลุกขึ้นเดิน เพราะอาจทำให้ยาลื่นไหลหลุดออกมาได้ หากกังวลว่ายาที่สอดเข้าไปในช่องคลอดจะละลายและไหลเปื้อนออกมาเลอะการเกงใน ก็อาจจะใช้ผ้าอนามัยเพื่อป้องกันการไหลเปื้อน


มีความจำเป็นหรือไม่ที่จะใช้น้ำยาสวนล้างช่องคลอดเพื่อทำความสะอาด ?

    โดยปกติช่องคลอดจะมีสภาพเป็นกรดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หากใช้น้ำยาสวนล้างช่องคลอดจะทำให้สภาพความเป็นกรดหมดไป ทำให้ติดเชื้อง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามสตรีควรทำความสะอาดบริเวณปากช่องคลอด โดยล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น โดยทำไปพร้อมกับการอาบน้ำตามปกติ ก็เป็นการเพียงพอแล้ว



แหล่งอ้างอิงข้อมูล
คู่มือ "เภสัชกรห่วงใยสุขภาพและการใช้ยาสตรี" โดย สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (แห่งประเทศไทย) พิมพ์ครั้งที่ 1 จำนวนพิมพ์ 150,000 เล่ม


แสดงความคิดเห็น

  ©

Back to TOP